ความรู้คุณแม่มือใหม่ จากน้ำนมแม่ สู่กระบวนการพัฒนาทักษะ EF งานวิจัยจำนวนมากที่ชี้ให้เห็นว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ (breastfeeding) มีผลบวกต่อเด็กหลายประการ ในด้านสติปัญญาและพัฒนาการพื้นฐานทั่วไปของสมอง รวมถึงมีผลระยะยาวต่อความสำเร็จในการเรียนและฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม เด็กที่ได้รับน้ำนมจากแม่ จะมี IQ สูงกว่าเด็กที่กินนมผง เส้นรอบวงศีรษะ (head circumference) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับสติปัญญา มีขนาดใหญ่กว่า และสมองเนื้อขาวของเด็กที่กินนมแม่มีการพัฒนารวดเร็วกว่า ซึ่งสมองเนื้อขาวนี้มีผลต่อการส่งสัญญาณข้อมูลในสมองและความเร็วของสมอง สำหรับเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ พบว่าจะมีไอคิวต่ำเด็กที่กินนมแม่กว่าประมาณ 2-5 จุด และเส้นรอบวงศีรษะเล็กกว่า การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองก็ได้พบว่า มีพัฒนาการตอบสนองน้อยกว่า ซึ่งความแตกต่างนี้เห็นได้ตั้งแต่เด็กอายุได้ 3 เดือน นอกจากนี้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ยังพบว่ามีความเชื่อมโยงระยะยาว กับความสำเร็จในโรงเรียน การศึกษาในระดับหลังปริญญาตรี และมีผลโยงไปถึงการเปลี่ยนสถานภาพทางสังคม (social mobility) อีกด้วย คำอธิบายก็คือ นมแม่นั้นมีส่วนประกอบของกรดไขมันชนิด DHA และ AA ที่จำเป็นต่อการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ในระบบประสาทส่วนกลาง และมีคอเรสเตอรอลสูง ช่วยในการสร้างไมอิลิน ซึ่งเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณในสมองของเด็ก และกรด DHA ยังมีความเชื่อมโยงกับการเจริญเติบโตของสมอง เส้นรอบวงศีรษะ น้ำหนักของสมอง และการสร้างซีนแนปส์ โดยที่นมชงไม่สามารถจะทดแทนได้ บทความดีๆจาก อาจารย์ พรพิไล เลิศวิชา ผู้เชี่ยวชาญด้าน EF (มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย)
|