ถึงเวลาพาเจ้าตัวเล็กไปฉีดวัคซีนครั้งแรก

Last updated: 10 ม.ค. 2563  |  3046 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ถึงเวลาพาเจ้าตัวเล็กไปฉีดวัคซีนครั้งแรก




ถึงเวลาพาเจ้าตัวเล็กไปฉีดวัคซีนครั้งแรก

      เจ้าตัวเล็กได้พบกับคุณพ่อคุณแม่ซะทีนะคะรอมาจนครบ 40 สัปดาห์แล้ว พอลืมตาปุ๊บก็ได้หม่ำๆ น้ำนมของคุณแม่ที่ให้ทั้งสารอาหาร และภูมิคุ้มกันต่างๆ ทันทีเลย... แต่ถึงลูกจะได้รับภูมิคุ้มกัน มาจากน้ำนมของคุณแม่บ้างแล้ว ร่างกายที่บอบบางของลูก ก็ยังต้องการเกราะป้องกันที่แข็งแรงพอที่ จะช่วยป้องกันเชื้อโรควายร้ายชนิดต่างๆ อยู่นะคะ ด้วยการรับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งการรับวัคซีน ตั้งแต่แรกเกิดเป็นสิ่งที่จำเป็น และสำคัญมากๆ สำหรับเด็กทารก

ข้อควรทราบเกี่ยวกับวัคซีนแต่ละชนิด

- วัคซีนวัณโรค (BCG) หลังฉีดประมาณร้อยละ 1-2 อาจจะพบปฏิกิริยาเป็นฝีหนอง ต่อมน้ำเหลืองโตเฉพาะที่ และตำแหน่งที่ฉีดเป็นตุ่มนูนแตกเป็นแผล ปฏิกิริยานี้จะอยู่นานประมาณ 3 เดือน และมักมีรอยแผลเป็นเกิดขึ้น

- วัคซีนตับอักเสบบี (HBV) อาจจะพบว่ามีอาการปวดบวมบริเวณที่ฉีดหรือมีไข้ ซึ่งมักจะเริ่มเป็นหลังจากฉีดได้ 3-4 ชั่วโมง และเป็นไม่เกิน 24 ชั่วโมง ควรให้ยาลดไข้แก่เด็กที่มีไข้หรือร้องกวน และอาจจะมีอาการอื่นได้บ้างเช่น ครั่นตัว อ่อนเพลีย ไม่มีผลกับการเกิดภาวะทารกตายฉับพลัน (Sudden infant death syndrome,SIDs)

- วัคซีนคอตีบ-ไอกรน-บาดทะยัก (DPT) มีวัคซีนที่รวมโปลิโอไว้ด้วย และมีวัคซีนรวมที่รวมทั้งโปลิโอ และไวรัสตับอักเสบบีไว้ด้วยสำหรับอายุ 6 เดือน เมื่อได้รับวัคซีนครบตามกำหนดภูมิคุ้มกันจะเริ่มเกิดประมาณ 2 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีนเข็มแรก มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค คอตีบได้ร้อยละ 95โรคบาดทะยักได้ร้อยละ 100 โรคไอกรนได้ร้อยละ 50-90 โดยภูมิคุ้มกันโรคคอตีบ และบาดทะยักอยู่ได้นาน10 ปี โรคไอกรนอยู่ได้นาน 5-7 ปี หลังจากฉีดอาจจะพบอาการ ปวด บวมแดงร้อนบริเวณที่ฉีด ไข้ ร้องกวน แนะนำให้ประคบเย็น และให้ยาลดไข้บรรเทาปวด หากมีปฏิกิริยาแพ้ที่รุนแรง แนะนำให้รีบไปพบแพทย์

- วัคซีนโปลิโอ  มีทั้งชนิดที่หยอดให้รับประทานและชนิดฉีดที่รวมกับวัคซีนคอตีบ-ไอกรน-บาดทะยัก ในกรณีที่ใช้ชนิดกินต้องระวังผลข้างเคียง ที่อาจจะทำให้เกิดอัมพาต (Vaccine-associatedparalytic poliomyelitis, VAPP)ได้ในอัตรา 1:24 ล้านโด๊ส  และห้ามให้หากในครอบครัวมีคนที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ ในกรณีที่ใช้แบบฉีดอาจจะเจ็บปวด เฉพาะบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย ไม่มีปฏิกิริยารุนแรงไม่ควรให้กับเด็กที่มีประวัติแพ้ยาฆ่าเชื้อ Sterptomycin, Neomycin หรือ Polymycin B ซึ่งเป็นส่วนผสมในวัคซีน

- วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) หลังฉีดอาจจะพบอาการ ไข้ ผื่น ซึ่งมักเกิดหลังฉีดวัคซีน 6-12 วัน ไข้มักอยู่เพียง1-2 วัน ต่อมน้ำเหลืองโต เกร็ดเลือดต่ำซึ่งจะหายได้เอง เป็นต้น และวัคซีนนี้ไม่ทำให้เด็กเป็นโรคออทิสติก
 
- วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) หากเป็นวัคซีนเชื้อตาย แนะนำให้เริ่มฉีดเข็มที่ 1 ที่อายุ 12 เดือน และเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1-4 สัปดาห์ และเข็มกระตุ้นห่างจากเข็มแรก 1 ปี หากเป็นวัคซีนเชื้ออ่อนฤทธิ์ เริ่มฉีดที่อายุ 9-12 เดือน และเข็มกระตุ้นห่างจากเข็มแรก 3-12 เดือน หลังฉีดอาจจะพบว่ามี ไข้ ผื่น ปวด บวมบริเวณที่ฉีดได้

- วัคซีนเยื่อหุ้มสมองฮิบ (Hib) หลังฉีดอาจจะพบว่ามี ไข้ ผื่น กระสับกระส่าย ปวด บวมบริเวณที่ฉีดได้ เมื่อฉีดพร้อมกับวัคซีนคอตีบ-ไอกรน-บาดทะยัก จะไม่ทำให้ปฏิกิริยาเพิ่มขึ้น

- วัคซีนนิวโมคอคคัส (IPD) หลังฉีดวัคซีนอาจพบว่าบริเวณที่ฉีดมีอาการปวด บวมแดง ผื่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ ถ่ายเหลว และมีไข้ 1-2 วันหลังฉีดได้บ้าง

- วัคซีนโรตา (Rota) วัคซีนโรตาของบางบริษัทสามารถหยอดเพียง 2 ครั้ง บางบริษัทต้องหยอด 3 ครั้ง ปฎิกิริยาหลังจากฉีดวัคซีนอาจพบได้บ้างแต่ไม่มาก เช่น มีไข้ เบื่ออาหาร ถ่ายเหลวอาเจียน งอแง ไม่ได้ทำให้เกิดภาวะลำไส้กลืนกัน (Intussusception) เพิ่มขึ้น

- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ในการฉีดครั้งแรกต้องฉีด 2 ครั้ง โดยแต่ละเข็มจะฉีดห่างกัน 1 เดือน หลังฉีดวัคซีนอาจพบว่ามีอาการไข้ น้ำมูก ปวดศีรษะ อาเจียนปวดเมื่อย ไม่ควรให้ในเด็กที่แพ้ไข่หรือกำลังรักษาด้วยยาแอสไพริน

- วัคซีนสุกใส (Varice lla) เข็มแรกฉีดได้ตั้งแต่อายุ 12-18 เดือน หลังฉีดอาจพบอาการปวด บวมแดงบริเวณที่ฉีด ผื่น ไข้ ไม่ควรให้ในคนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือใช้ยากดภูมิคุ้มกัน แพ้Gelatin หรือ ยาฆ่าเชื้อ Neomycin

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน

- คุณพ่อคุณแม่ควรทราบว่า ลูกได้รับวัคซีนอะไรบ้างในแต่ละครั้ง และสังเกตอาการข้างเคียง ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากพาลูกไปฉีดวัคซีน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ให้การดูแลได้อย่างถูกต้อง

- การฉีดวัคซีนบางชนิดต้องให้มากกว่า1 ครั้ง และต้องฉีดอีกเป็นครั้งคราวจึงจะได้ผลป้องกันโรคได้เต็มที่ คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาลูกมาตามที่คุณหมอนัดทุกครั้ง

- ในวันนัดฉีดวัคซีน ถ้าลูกเป็นไข้ควรเลื่อนไปจนกว่าลูกจะหายไข้

- ในรายที่ไม่สามารถมาตามนัดได้ อย่าเลิกไป ควรพาลูกไปรับวัคซีนให้ครบ ไม่ว่าจะเว้นไปนานเท่าไหร่ก็ให้ต่อเนื่องได้ โดยไม่ต้องตั้งต้นใหม่

- ถ้าลูกมีอาการรุนแรงหลังฉีดวัคซีน เช่นชัก ไข้สูงมาก ควรแจ้งคุณหมอทราบก่อนฉีดครั้งต่อไป


บทความดีๆจาก thainannyclub

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้